ตรวจสอบแบตเตอรี่ UPS เปลี่ยนเมื่อไหร่? วิธีเช็กอายุการใช้งาน & เคล็ดลับยืดอายุแบตเตอรี่

ตรวจสอบแบตเตอรี่ UPS
ตรวจสอบแบตเตอรี่ UPS เปลี่ยนเมื่อไหร่? วิธีเช็กอายุการใช้งาน & เคล็ดลับยืดอายุแบตเตอรี่ 7

ทำไมต้องเปลี่ยน UPS Battery? เปลี่ยนทำไม เปลี่ยนแล้วดียังไง แล้วควรเปลี่ยนตอนไหน?

ตรวจสอบแบตเตอรี่ UPS UPS Battery เป็นหัวใจสำคัญของระบบสำรองไฟ ช่วยป้องกันความเสียหายจากไฟดับ ไฟกระชาก และแรงดันไฟฟ้าผันผวน อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่จำกัด และจำเป็นต้องเปลี่ยนเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าของคุณได้รับการปกป้องเต็มประสิทธิภาพ มาดูกันว่าทำไมต้องเปลี่ยน UPS Battery? เปลี่ยนทำไม? เปลี่ยนแล้วดียังไง? และควรเปลี่ยนตอนไหน?

1.แบตเตอรี่ UPS มีกี่ประเภท?

แบตเตอรี่ UPS มีหลายประเภทที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่:

  1. แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด (Lead-Acid Battery) – เป็นแบตเตอรี่ที่นิยมใช้มากที่สุด มีราคาถูก และสามารถรองรับพลังงานสำรองได้ดี
  2. แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-Ion Battery) – มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า และมีน้ำหนักเบากว่าแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด
  3. แบตเตอรี่ Nickel-Cadmium (NiCd) – มีความทนทานสูง แต่มีราคาสูงกว่าประเภทอื่น และมีปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเนื่องจากมีสารพิษ

2.เปลี่ยนแบตเตอรี่ UPSทำไม?

มีหลายเหตุผลที่คุณควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้แก่:

  1. อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ – โดยทั่วไปแล้วแบตเตอรี่ UPS มีอายุการใช้งานประมาณ 2-5 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทและคุณภาพของแบตเตอรี่ หากแบตเตอรี่เก่าเกินไป ประสิทธิภาพในการสำรองไฟจะลดลง
  2. ลดความเสี่ยงของระบบไฟฟ้าขัดข้อง – แบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพอาจไม่สามารถจ่ายไฟสำรองได้เพียงพอ ทำให้เกิดปัญหากับอุปกรณ์ที่ต้องใช้พลังงาน
  3. รักษาประสิทธิภาพของ UPS – การเปลี่ยนแบตเตอรี่ช่วยให้ UPS ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ป้องกันไฟกระชากและไฟดับได้ดียิ่งขึ้น
  4. ป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์ – อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ หรือกล้องวงจรปิด อาจได้รับความเสียหายหาก UPS ไม่สามารถสำรองไฟได้เพียงพอ

3.แบตเตอรี่ UPS ใช้งานได้นานแค่ไหน?

อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ UPS ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ประเภทของแบตเตอรี่ การใช้งาน และสภาพแวดล้อมทั่วไป โดยทั่วไป:

  • แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด มีอายุการใช้งานประมาณ 2-5 ปี
  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน มีอายุการใช้งานประมาณ 5-10 ปี
  • แบตเตอรี่ Nickel-Cadmium (NiCd) สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 10-15 ปี

4.วิธีการชาร์จแบตเตอรี่ที่ถูกต้อง

  • ควรใช้ เครื่องชาร์จที่เหมาะสม กับประเภทของแบตเตอรี่ UPS
  • หลีกเลี่ยงการ ชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ตลอดเวลา เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพเร็ว
  • หลีกเลี่ยงการปล่อยให้แบตเตอรี่ หมดประจุจนเกินไป เพราะอาจทำให้เซลล์แบตเตอรี่เสียหาย
  • ควรชาร์จแบตเตอรี่ใน อุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ควรเกิน 25°C เพื่อป้องกันความร้อนสะสม

5.ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ UPS?

  1. อุณหภูมิ – อุณหภูมิที่สูงเกินไปทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว
  2. การใช้งานหนักเกินไป – การใช้แบตเตอรี่จนหมดบ่อยๆ จะลดอายุการใช้งาน
  3. การชาร์จผิดวิธี – ชาร์จไม่ถูกต้อง อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว
  4. คุณภาพของแบตเตอรี่ – แบตเตอรี่คุณภาพต่ำมีอายุการใช้งานสั้นกว่าปกติ

6.เคล็ดลับในการยืดอายุการใช้งานตัวแบตเตอรี่ UPS

  • ตรวจสอบและบำรุงรักษาแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ
  • เก็บ UPS ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงความร้อนสูง
  • ใช้แบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับโหลดที่ต้องการ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ UPS จนแบตเตอรี่หมดประจุบ่อยครั้ง

7.ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ตอนไหน?

การเปลี่ยนแบตเตอรี่ UPS ควรทำเมื่อ:

  • UPS แจ้งเตือนว่าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ – UPS ส่วนใหญ่จะมีไฟหรือเสียงแจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมดอายุ
  • สำรองไฟได้น้อยลงกว่าปกติ – หาก UPS เคยสำรองไฟได้ 10 นาที แต่ปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 2-3 นาที แสดงว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม
  • อายุการใช้งานถึงกำหนด – หากใช้ UPS มานาน 2-5 ปี ควรตรวจสอบและเปลี่ยนแบตเตอรี่ตามคำแนะนำของผู้ผลิต
  • แบตเตอรี่บวม หรือมีรอยแตกร้าว – หากพบว่าแบตเตอรี่บวม หรือมีคราบสารเคมีรั่ว ควรเปลี่ยนทันทีเพื่อป้องกันอันตราย
  • UPS ไม่สามารถสำรองไฟได้เมื่อไฟดับ – หากไฟดับแล้ว UPS ดับตามทันที แสดงว่าแบตเตอรี่ไม่สามารถกักเก็บพลังงานได้แล้ว

8.ทำอย่างไรเมื่อ UPS Battery ไม่ชาร์จไฟ?

เมื่อ UPS Battery ไม่ชาร์จไฟ อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งปัญหาจากแบตเตอรี่เองหรือระบบของ UPS การแก้ไขปัญหานี้สามารถทำได้ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้:

8.1. ตรวจสอบการเชื่อมต่อและสายไฟ

  • ขั้นตอน:
    • ตรวจสอบว่า UPS ถูกเสียบปลั๊กและเปิดสวิตช์อยู่หรือไม่
    • ตรวจสอบสายไฟและปลั๊กที่เชื่อมต่อระหว่าง UPS กับแหล่งจ่ายไฟว่ามีการชำรุดหรือหลุดหลวมหรือไม่
  • วิธีแก้ไข:
    • เสียบปลั๊กให้แน่น และเปลี่ยนสายไฟหรือปลั๊กที่เสียหาย

8.2. ตรวจสอบอายุการใช้งานของแบตเตอรี่

  • ขั้นตอน:
    • เช็กอายุของแบตเตอรี่ UPS โดยทั่วไปแบตเตอรี่ UPS มีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี
    • หากแบตเตอรี่มีอายุเกินนี้ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่ชาร์จไฟ
  • วิธีแก้ไข:
    • เปลี่ยนแบตเตอรี่ UPS ใหม่

8.3. ทดสอบแบตเตอรี่ด้วยตัวเอง

  • ขั้นตอน:
    • ถอดแบตเตอรี่ออกจาก UPS และใช้มัลติมิเตอร์วัดแรงดันแบตเตอรี่
    • แรงดันปกติของแบตเตอรี่ UPS ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 12V-13.5V (หากต่ำกว่านี้ แสดงว่าแบตเตอรี่อาจเสีย)
  • วิธีแก้ไข:
    • หากแรงดันต่ำหรือไม่มีไฟเลย ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่

8.4. รีเซ็ต UPS

  • ขั้นตอน:
    • ปิด UPS และถอดปลั๊กออกจากแหล่งจ่ายไฟ
    • ถอดแบตเตอรี่ออกประมาณ 5-10 นาที
    • ใส่แบตเตอรี่กลับเข้าไปและเสียบปลั๊กใหม่
  • วิธีแก้ไข:
    • การรีเซ็ตอาจช่วยให้ระบบชาร์จกลับมาทำงานได้ปกติ

8.5. ตรวจสอบระบบชาร์จของ UPS

  • ขั้นตอน:
    • หากแบตเตอรี่ยังไม่ชาร์จไฟหลังจากลองทุกวิธีแล้ว อาจเป็นปัญหาจาก วงจรชาร์จของ UPS
  • วิธีแก้ไข:
    • ควรติดต่อศูนย์บริการหรือช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบและซ่อมแซม

8.6. ป้องกันปัญหาในอนาคต

  • เคล็ดลับ:
    • ตรวจสอบแบตเตอรี่ UPS เป็นประจำทุก 6 เดือน
    • หลีกเลี่ยงการใช้งาน UPS ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนหรือชื้น
    • ใช้ UPS ให้เหมาะสมกับกำลังไฟของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ

หากลองทุกวิธีแล้ว UPS Battery ยังไม่ชาร์จไฟ แนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบระบบ UPS อย่างละเอียด

9.ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้งาน UPS Battery

การใช้งาน UPS Battery อาจเกิดข้อผิดพลาดบางอย่างที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ โดยเฉพาะหากผู้ใช้ไม่มีความเข้าใจในการดูแลรักษาที่ถูกต้อง ต่อไปนี้คือข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและวิธีป้องกัน:

9.1. ใช้ UPS ไม่เหมาะสมกับโหลด (Overload หรือ Underload)

  • ปัญหาที่เกิด:
    • หากใช้ UPS กับอุปกรณ์ที่กินไฟมากเกินไป (Overload) จะทำให้ UPS ทำงานหนักและแบตเตอรี่เสื่อมเร็ว
    • หากใช้กับอุปกรณ์ที่กินไฟน้อยเกินไป (Underload) อาจทำให้แบตเตอรี่ไม่ถูกใช้งานเต็มที่และเสื่อมสภาพได้เช่นกัน
  • วิธีป้องกัน:
    • เลือก UPS ที่มีกำลังไฟ (VA หรือ Watt) เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ
    • ตรวจสอบโหลดการใช้งานเป็นประจำ

9.2. ไม่ตรวจสอบอายุการใช้งานของแบตเตอรี่

  • ปัญหาที่เกิด:
    • แบตเตอรี่ UPS มีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี หากใช้งานเกินอายุจะทำให้ประสิทธิภาพลดลงหรือไม่ทำงาน
  • วิธีป้องกัน:
    • ตรวจสอบอายุแบตเตอรี่เป็นประจำและเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เมื่อถึงเวลา

9.3. ไม่ทำการ Calibrate battery

  • ปัญหาที่เกิด:
    • หากไม่ Calibrate แบตเตอรี่เป็นระยะ เวลาการสำรองไฟอาจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
  • วิธีป้องกัน:
    • Calibrate แบตเตอรี่ทุก 3-6 เดือน โดยการปล่อยให้ UPS ทำงานด้วยแบตเตอรี่จนหมด แล้วชาร์จใหม่เต็มที่

9.4. ใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม

  • ปัญหาที่เกิด:
    • การใช้งาน UPS ในที่อุณหภูมิสูงหรือมีความชื้นมาก จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว
  • วิธีป้องกัน:
    • ติดตั้ง UPS ในที่ที่มีอุณหภูมิเหมาะสม (ประมาณ 20-25°C) และอากาศถ่ายเทได้ดี
    • หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือฝุ่นมาก

9.5. ไม่ทำการบำรุงรักษาเป็นประจำ

  • ปัญหาที่เกิด:
    • หากไม่ตรวจสอบและบำรุงรักษา UPS เป็นประจำ อาจทำให้เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิด เช่น แบตเตอรี่เสื่อมสภาพหรือระบบชาร์จเสียหาย
  • วิธีป้องกัน:
    • ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่และระบบชาร์จทุก 6 เดือน
    • ทำความสะอาด UPS เพื่อป้องกันฝุ่นสะสม

9.6. ปล่อยให้แบตเตอรี่หมดไฟบ่อยครั้ง

  • ปัญหาที่เกิด:
    • การปล่อยให้แบตเตอรี่หมดไฟบ่อยๆ จะทำให้เซลล์แบตเตอรี่เสียหายและอายุการใช้งานสั้นลง
  • วิธีป้องกัน:
    • หลีกเลี่ยงการใช้งาน UPS จนแบตเตอรี่หมดเป็นประจำ
    • ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มหลังจากใช้งาน

9.7. ไม่เข้าใจฟังก์ชันการทำงานของ UPS

  • ปัญหาที่เกิด:
    • ผู้ใช้บางคนไม่เข้าใจฟังก์ชันการทำงานของ UPS เช่น ไม่รู้ว่า UPS มีระบบบายพาส (Bypass) หรือไม่รู้วิธีสลับไปใช้แบตเตอรี่เมื่อไฟดับ
  • วิธีป้องกัน:
    • ศึกษาคู่มือการใช้งาน UPS ให้เข้าใจก่อนใช้งาน
    • ฝึกใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ของ UPS ให้คล่อง

9.8. ไม่เตรียมแผนสำรองเมื่อ UPS ล้มเหลว

  • ปัญหาที่เกิด:
    • หาก UPS ล้มเหลวโดยไม่มีแผนสำรอง อาจทำให้ข้อมูลหรืออุปกรณ์เสียหายได้
  • วิธีป้องกัน:
    • มีแหล่งจ่ายไฟสำรองเพิ่มเติม หรือเซฟข้อมูลสำคัญเป็นประจำ

การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของ UPS Battery และทำให้ระบบสำรองไฟมีประสิทธิภาพตลอดเวลา หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือศูนย์บริการเพื่อการดูแลที่ถูกต้องค่ะ!

10.UPS Battery หมดอายุแล้วควรทำอย่างไร?

เมื่อ UPS Battery หมดอายุหรือเสื่อมสภาพ จะไม่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจส่งผลให้ UPS ไม่สามารถสำรองไฟได้เมื่อเกิดไฟดับ เพื่อความปลอดภัยและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ควรปฏิบัติตามแนวทางดังนี้

1. ตรวจสอบอาการของ UPS Battery ที่หมดอายุ

  • ก่อนเปลี่ยนหรือทิ้งแบตเตอรี่ ควรเช็กให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่เสื่อมจริง โดยดูจากสัญญาณเตือนเหล่านี้:
    • UPS แจ้งเตือนแบตเตอรี่เสื่อม (Battery Replace Indicator)
    • สำรองไฟได้น้อยลง หรือสำรองไฟไม่ได้เลย
    • UPS มีเสียงเตือนผิดปกติ หรือไฟแสดงสถานะผิดปกติ
    • แบตเตอรี่บวม หรือรั่วซึม (อันตราย ควรเปลี่ยนทันที)

2. เปลี่ยนแบตเตอรี่ UPS ให้เหมาะสม

  • หากพบว่าแบตเตอรี่หมดอายุ ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ที่ตรงรุ่นและมีคุณภาพ เพื่อให้ UPS ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ โดยมีข้อแนะนำดังนี้:
    • เลือกแบตเตอรี่ที่ตรงกับ แรงดันไฟฟ้า (Voltage) และความจุ (Ah) ของ UPS
    • เลือก แบตเตอรี่แท้จากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ เช่น APC, Eaton, CyberPower, Vertiv, Delta
    • ตรวจสอบวันที่ผลิตของแบตเตอรี่ ควรเลือก แบตเตอรี่ที่ผลิตใหม่ ไม่เก่าเกิน 6 เดือน

3. กำจัด UPS Battery ที่หมดอายุอย่างถูกวิธี

  • เนื่องจากแบตเตอรี่ UPS เป็น ขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) ไม่ควรทิ้งลงถังขยะทั่วไป ควรดำเนินการดังนี้:
    • นำไปที่ศูนย์รับคืนแบตเตอรี่เก่า เช่น ร้านขายอุปกรณ์ไอที ร้านขาย UPS หรือศูนย์บริการของแบรนด์
    • ส่งไปศูนย์รีไซเคิลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่รองรับการกำจัดแบตเตอรี่อย่างปลอดภัย
    • ห้ามทิ้งลงแม่น้ำ คูคลอง หรือเผาทิ้งเอง เพราะเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม

4. วิธีป้องกันไม่ให้ UPS Battery เสื่อมเร็ว

  • เพื่อให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ควรดูแลรักษาอย่างถูกต้อง
    • หลีกเลี่ยงการใช้งานจนแบตเตอรี่หมดเกลี้ยงบ่อยๆ
    • ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อไม่ใช้งานเป็นเวลานาน
    • เก็บ UPS ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงความร้อนสูง
    • ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่เป็นระยะ เพื่อลดการเกิดออกซิเดชัน

11.Battery แต่ละชนิด: คุณสมบัติ การใช้งาน และประเทศผู้ผลิต

Battery แต่ละชนิด
ตรวจสอบแบตเตอรี่ UPS เปลี่ยนเมื่อไหร่? วิธีเช็กอายุการใช้งาน & เคล็ดลับยืดอายุแบตเตอรี่ 8

แบตเตอรี่ UPS มีหลากหลายแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในตลาด แต่ละแบรนด์มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปตามเทคโนโลยีที่ใช้และแหล่งผลิต มาดูกันว่าแบตเตอรี่ LEOCH, LONG, HIPOW และ Global Power มีจุดเด่นอย่างไร และเหมาะกับการใช้งานแบบไหน

1. Battery LEOCH

แหล่งผลิต: ประเทศจีน

LEOCH Battery เป็นหนึ่งในผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่จากประเทศจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 โดยมุ่งเน้นไปที่ แบตเตอรี่ตะกั่วกรด (Lead-Acid Battery), แบตเตอรี่ลิเธียม (Lithium Battery) และแบตเตอรี่เจล (Gel Battery)

จุดเด่นของ LEOCH Battery

  • มีหลากหลายประเภท เช่น VRLA, AGM, Deep Cycle และ Lithium
  • ใช้เทคโนโลยี AGM และเจล ทำให้มีความปลอดภัยสูงและไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อย
  • มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าแบตเตอรี่ทั่วไป

เหมาะสำหรับ

  • UPS และระบบสำรองไฟ
  • ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Power)
  • รถกอล์ฟและอุปกรณ์ไฟฟ้า

2. Battery LONG

แหล่งผลิต: ประเทศไต้หวัน

แบตเตอรี่ LONG ผลิตโดยบริษัท Kung Long Batteries Industrial Co., Ltd. ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่จากไต้หวัน โดยมีประสบการณ์มากกว่า 30 ปีในการพัฒนาแบตเตอรี่แบบ VRLA (Valve Regulated Lead-Acid Battery)

จุดเด่นของ LONG Battery

  • ใช้เทคโนโลยี AGM (Absorbent Glass Mat) ช่วยป้องกันการรั่วไหลของกรด
  • โครงสร้างทนทาน รองรับการใช้งานหนัก
  • เป็นแบรนด์ที่ได้รับมาตรฐานสากล เช่น ISO 9001 และ UL

เหมาะสำหรับ

  • UPS และเครื่องสำรองไฟฟ้า
  • ระบบไฟฟ้าโซลาร์เซลล์
  • อุปกรณ์ทางการแพทย์ และระบบโทรคมนาคม

3. Battery HIPOW

แหล่งผลิต: ประเทศจีน

แบตเตอรี่ HIPOW เป็นแบรนด์จากประเทศจีนที่ได้รับความนิยมในหมวด แบตเตอรี่สำรองไฟแบบตะกั่วกรด VRLA ซึ่งเหมาะกับการใช้งานใน UPS และระบบพลังงานสำรอง

จุดเด่นของ HIPOW Battery

  • ราคาประหยัด และมีอายุการใช้งานยาวนาน
  • ใช้เทคโนโลยี AGM ป้องกันการรั่วไหลของกรด
  • รองรับการชาร์จและจ่ายไฟได้ต่อเนื่อง

เหมาะสำหรับ

  • เครื่องสำรองไฟ UPS
  • ระบบเครือข่ายโทรคมนาคม
  • ระบบพลังงานฉุกเฉิน

4. Battery Global Power

แหล่งผลิต: ประเทศจีน

แบตเตอรี่ Global Power เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ผลิตจากประเทศจีน โดยเน้นไปที่ แบตเตอรี่ VRLA และ AGM Battery ที่รองรับการใช้งานใน UPS, ระบบไฟฟ้าฉุกเฉิน และอุปกรณ์ทางอุตสาหกรรม

จุดเด่นของ Global Power Battery

  • มีเทคโนโลยี VRLA แบบปิดสนิท ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น
  • รองรับการใช้งานในอุณหภูมิที่หลากหลาย
  • มีความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน

เหมาะสำหรับ

  • ระบบสำรองไฟ UPS
  • ระบบไฟฉุกเฉิน และโครงข่ายโทรคมนาคม
  • ระบบควบคุมอุตสาหกรรม

สรุป

แบต
ตรวจสอบแบตเตอรี่ UPS เปลี่ยนเมื่อไหร่? วิธีเช็กอายุการใช้งาน & เคล็ดลับยืดอายุแบตเตอรี่ 9

การเปลี่ยนแบตเตอรี่ UPS เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำรองไฟทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ปกป้องอุปกรณ์จากความเสียหายที่อาจเกิดจากไฟฟ้าดับหรือไฟกระชาก หากคุณสังเกตว่า UPS สำรองไฟได้น้อยลง หรือได้รับแจ้งเตือนจากตัวเครื่อง ควรรีบเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้เร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัยของอุปกรณ์และข้อมูลสำคัญของคุณ

หากมีข้อสงสัยเรื่องการเลือกซื้อ UPS สามารถอ่านบทความได้ >>ที่นี้<< หรือ ติดต่อสอบถามเรื่องสินค้ากับทางเราได้ที่ Line Add

แชร์หน้านี้:
Shopping Cart
Scroll to Top