
GREEN IT INFRASTRUCTURE
หมายถึงการใช้ทรัพยากรไอทีอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน โดยเกี่ยวข้องกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินงานด้านไอที ทำไม Green Information Technology จึงมีความสำคัญ:
- ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม : ไอทีสีเขียวช่วยลดการใช้พลังงานและขยะอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้โลกมีสุขภาพที่ดีขึ้น
- การประหยัดต้นทุน : แนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนมักนำไปสู่การประหยัดต้นทุนด้วยค่าพลังงานที่ลดลงและอายุการใช้งานของฮาร์ดแวร์ที่ยืนยาว
- การปฏิบัติตามกฎระเบียบ : ปัจจุบันหลายภูมิภาคมีกฎระเบียบที่กำหนดให้หรือจูงใจให้ธุรกิจต่างๆ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
- ชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้น : การแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืนสามารถเพิ่มชื่อเสียงของแบรนด์ของคุณได้
PLANTDIGI TECHNOLOGY SOLUTION CO.,LTD
เรานำเสนอโซลูชันไอทีที่ยั่งยืนซึ่งช่วยลดการใช้พลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานฮาร์ดแวร์ และรวมแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ของคุณด้วยการเป็นพันธมิตรกับเรา คุณไม่เพียงแต่ยอมรับความยั่งยืน แต่ยังได้รับประโยชน์จากการประหยัดต้นทุนและผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
เราได้ได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำและผู้ขายเพื่อตอบสนองโครงสร้างพื้นฐานเป็นบริการเต็มรูปแบบ ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าเราสามารถส่งมอบงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
Power Distribution Unit (PDU)
Automatic Transfer Switch (ATS)
RACK and Accessories
ENVIRONMENTAL SENSORS


IT infrastructure คือหัวใจของระบบโครงสร้างไอทีในองค์กร
ถ้าจะเปรียบการวางระบบไอทีในสำนักงานกับการสร้างบ้าน คือการให้สถาปนิกผู้เชี่ยวชาญมาออกแบบวางโครงสร้างของบ้านนั่นเอง ว่าอะไรควรจะอยู่ตรงไหน เพื่อความมั่นคงแข็งแรงของบ้าน และเพื่อความสะดวกในการใช้งานและความปลอดภัยของทุกคนในบ้าน กล่าวง่าย ๆ it infrastructure คืองานออกแบบโครงสร้างระบบไอทีในองค์กรนั่นเอง ซึ่งการออกแบบด้านระบบไอทีให้กับองค์กรนั้น เป็นงานที่จำเป็นจะต้องอาศัยผู้ที่ชำนาญเฉพาะทางจริง ๆ ถึงจะออกแบบมาได้ครอบคลุมและตอบโจทย์ประสิทธิภาพการใช้งานของทุก ๆ คนในองค์กร จึงเรียกได้ว่าสิ่งนี้เป็นหัวใจสำคัญของงานไอทีเลยทีเดียว
องค์ประกอบของงาน it infrastructure คืออะไรบ้าง
งานด้านนี้จะมีด้วยกันหลายด้าน แต่หลัก ๆ แล้วก็จะแบ่งเป็นงานด้านต่าง ๆ ดังนี้
1.งานด้านการติดตั้งและวางระบบ Server
2.งานด้านการติดตั้งและวางระบบ Network
3.งานด้านการสร้างและการจัดการ Data Center ครอบคลุมไปยังส่วนของการจัดซื้อจัดหาและเลือกใช้ Storage เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ การ Backup ข้อมูล และเรื่องของ Database ด้วย
4.งานด้าน IT Security การออกแบบและดูแลระบบรักษาความปลอดภัยด้าน IT ให้กับองค์กรซึ่งคุณจะเห็นว่าองค์ประกอบงานด้านต่าง ๆ ของ โครงสร้างพื้นฐานด้านไอที คือสิ่งที่ครอบคลุมเรื่องไอทีทั้งหมดขององค์กร ตั้งแต่เริ่มออกแบบ สร้างระบบ ไปจนกระทั่งสร้างระบบเสร็จก็ยังมีการดูแลบริหารจัดการให้ด้วย จึงเรียกว่ามีความสำคัญอย่างมาก และเป็นสิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้เลยจริง ๆ
เมื่อ โครงสร้างพื้นฐานด้านไอที คือหัวใจโครงสร้างระบบไอทีทั้งหมดขององค์กร ดังนั้น การจะเลือกใช้บริการจากบริษัทไหน จึงต้องเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาพิจารณาตัดสินใจกันให้ดี คุณจำเป็นที่จะต้องพิจารณาเลือกบริษัทผู้ให้บริการที่มีความรู้มีความชำนาญในระบบตัวจริง มีความรู้ทั้งระบบเก่าและระบบใหม่ที่สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง
หลาย ๆ บริษัทได้มีการฝึกอบรมพนักงานให้เข้าใจระบบไอทีที่มีการเปลี่ยนแปลง จึงทำให้สามารถที่จะออกแบบและให้คำแนะนำลูกค้าองค์กรทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี และสามารถที่จะออกแบบวางระบบโครงสร้างไอทีของทั้งองค์กรได้ออกมามีมาตรฐานสากล สอดรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างลงตัว และระบบไอทีที่ลงตัวกับการทำงานนี่เองที่จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่น ไม่ต้องมาคอยกังวลเกี่ยวกับงานที่ล่าช้าไม่สะดวก ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับงบประมาณที่จะต้องเสียไปกับการแก้ไขระบบไอทีในองค์กร เมื่อคุณเริ่มต้นดีมีความพิถีพิถัน ผลลัพธ์ที่ตามมาก็ย่อมดีด้วยเสมอ เรื่องระบบไอทีจึงต้องเริ่มใส่ใจกันให้มากตั้งแต่เริ่มต้นจริง ๆ
การเลือกเซิร์ฟเวอร์ให้เหมาะสมกับงาน
การเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมกับงานนั้นสำคัญมาก เพราะจะส่งผลต่อประสิทธิภาพและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของระบบ IT ทั้งหมด ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาในการเลือกเซิร์ฟเวอร์ ได้แก่
- ประเภทของงาน: งานประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก งานฐานข้อมูล งานเว็บเซิร์ฟเวอร์ หรืองานเฉพาะทางอื่นๆ
- ปริมาณงาน: จำนวนผู้ใช้งานที่คาดการณ์, ปริมาณข้อมูลที่ต้องประมวลผล
- ความต้องการด้านประสิทธิภาพ: ความเร็วในการประมวลผล, ความจุของหน่วยความจำ
- งบประมาณ: ราคาของเซิร์ฟเวอร์, ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
- ขนาดขององค์กร: องค์กรขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่
UPS ในระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที
UPS (Uninterruptible Power Supply) หรือ เครื่องสำรองไฟ นับเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ในระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที เนื่องจากมีบทบาทในการป้องกันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และข้อมูลสำคัญจากความเสียหายที่อาจเกิดจากปัญหาไฟฟ้า เช่น ไฟดับ ไฟกระชาก หรือไฟตก
ทำไม UPS จึงสำคัญต่อ โครงสร้างพื้นฐานด้านไอที ?
- ปกป้องข้อมูล: เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าขัดข้อง UPS จะจ่ายไฟสำรองให้กับอุปกรณ์ ทำให้มีเวลาเพียงพอในการบันทึกข้อมูลที่กำลังดำเนินการอยู่ ลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลสำคัญ
- ป้องกันความเสียหายต่อฮาร์ดแวร์: การเปลี่ยนแปลงของแรงดันไฟฟ้าอย่างรวดเร็วสามารถทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เสียหายได้ UPS ช่วยควบคุมแรงดันไฟฟ้าให้เสถียร
- เพิ่มอายุการใช้งานของอุปกรณ์: การใช้งาน UPS อย่างต่อเนื่องจะช่วยลดการสึกหรอของอุปกรณ์
- รองรับการทำงานของระบบที่สำคัญ: เช่น เซิร์ฟเวอร์, ระบบเครือข่าย, และระบบรักษาความปลอดภัย





